ความหนาของเสาไฟถนนตามมาตรฐาน มอก.: เกณฑ์สำคัญที่คุณต้องรู้ เพื่อความปลอดภัยและอายุการใช้งาน
“เสาไฟถนน” หลายคนอาจนึกถึงเพียงความสูงหรือดีไซน์ของเสาไฟ แต่แท้จริงแล้ว ความหนาของเหล็กและความหนาของชั้นเคลือบสังกะสี คือหัวใจสำคัญที่กำหนดทั้ง ความแข็งแรง ความปลอดภัย และอายุการใช้งาน ของระบบไฟถนนโดยตรง เสาไฟที่ได้มาตรฐานต้องสามารถต้านแรงลม ฝนกรด และการกัดกร่อนจากสิ่งแวดล้อมได้ยาวนานซึ่งสิ่งเหล่านี้ถูกควบคุมโดยมาตรฐาน มอก. (มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม) และมาตรฐานสากลที่เกี่ยวข้อง เช่น ASTM A123 สำหรับการชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อน
ความหนาของเหล็ก (Steel Thickness): เกณฑ์หลักทางวิศวกรรม
-
- แม้ว่า มอก. จะไม่ได้กำหนด “ความหนาเหล็กขั้นต่ำ” ตายตัวสำหรับเสาไฟถนนทุกประเภท แต่ได้กำหนดให้ใช้ เหล็กกล้าคาร์บอนรีดร้อนตาม มอก. 1479-2541 หรือเทียบเท่า โดยต้องมีคุณสมบัติเชิงกลและเคมีที่เหมาะสมต่อการใช้งานภายนอก ความหนาที่เลือกใช้จะขึ้นอยู่กับการคำนวณแรงลม (Wind Load) และน้ำหนักบรรทุกของอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ติดตั้ง ซึ่งต้องได้รับการรับรองโดย วิศวกรโครงสร้าง
ตัวอย่างความหนาเหล็กโดยทั่วไป (แนวทางอุตสาหกรรม)
ประเภทเสาไฟ |
ความสูงโดยประมาณ | ความหนาเหล็กที่ใช้ (มม.) | หมายเหตุ |
เสาไฟถนนทั่วไป |
6 – 9 เมตร | 3 – 4.5 มม. | ใช้ในพื้นที่ชุมชน / ถนนภายในเมือง |
เสาไฟทางหลวง | 10 – 12 เมตร | 4.5 – 6 มม. |
ต้องต้านแรงลมมากกว่า ใช้ในพื้นที่โล่ง |
เสาไฟ High Mast | 15 – 40 เมตร | 6 – 12 มม. |
ใช้ในลานจอดหรือสนามกีฬา ต้องมีการคำนวณเฉพาะ |
หมายเหตุ: ตัวเลขนี้อ้างอิงจากแนวทางของกรมทางหลวงและการไฟฟ้านครหลวง (PEA/MEA) รวมถึงข้อมูลจากผู้ผลิตเสาไฟรายใหญ่ในประเทศไทย
ความหนาของชั้นเคลือบสังกะสี (Galvanized Coating Thickness)
-
- แม้ความหนาของเหล็กจะเป็นหัวใจหลัก แต่สิ่งที่ยืดอายุการใช้งานได้มากที่สุดคือ ชั้นเคลือบสังกะสีจากกระบวนการ Hot-Dip Galvanizing
ชั้นเคลือบนี้จะทำหน้าที่เป็น “เกราะกันสนิม” ที่ป้องกันเหล็กไม่ให้สัมผัสกับอากาศและความชื้นโดยตรง
- แม้ความหนาของเหล็กจะเป็นหัวใจหลัก แต่สิ่งที่ยืดอายุการใช้งานได้มากที่สุดคือ ชั้นเคลือบสังกะสีจากกระบวนการ Hot-Dip Galvanizing
มาตรฐานความหนาชั้นเคลือบสังกะสีตาม ASTM A123 (เทียบเท่ามอก.)
ความหนาเหล็ก (มม.) |
ความหนาชั้นเคลือบสังกะสีขั้นต่ำ (µm) | น้ำหนักเคลือบโดยประมาณ (g/m²) | อายุการใช้งานโดยประมาณ* |
3 – 5 มม. |
≥ 70 µm | ~ 505 g/m² | 15 – 20 ปี |
5 – 8 มม. | ≥ 85 µm | ~ 610 g/m² |
20 – 25 ปี |
> 8 มม. | ≥ 100 µm | ~ 720 g/m² |
25 ปี ขึ้นไป |
อายุการใช้งานโดยประมาณขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม เช่น พื้นที่ชายฝั่งจะมีอัตราการกัดกร่อนสูงกว่าพื้นที่ในเมือง
-
- ชั้นเคลือบนี้จะถูกตรวจสอบโดยเครื่องวัดความหนาเคลือบ (Coating Thickness Gauge) และต้องแนบเอกสารผลทดสอบในขั้นตอนตรวจรับเสาไฟ
การตรวจสอบและรับรองคุณภาพสำหรับหน่วยงานจัดซื้อ
เพื่อให้แน่ใจว่าเสาไฟถนนที่ได้รับมีคุณภาพตามมาตรฐาน ควรตรวจสอบเอกสารต่อไปนี้ก่อนการติดตั้งจริง
-
- ใบรับรอง มอก. ของเหล็ก – เช่น มอก. 1479-2541 หรือเทียบเท่า
- เอกสารคำนวณทางวิศวกรรม – แสดงความหนาเหล็กและขนาดหน้าตัดที่ผ่านการรับรองโดยวิศวกรโยธา
- รายงานผลทดสอบการชุบสังกะสี – ต้องมีค่าความหนาชั้นเคลือบ ≥ 85 µm ตามมาตรฐาน ASTM A123
- ใบรับรองจากโรงงานผลิต (Mill Certificate) – แสดงแหล่งวัสดุและผลการทดสอบทางกล
บทสรุป
ความหนาเสาไฟมาตรฐาน มอก. การเลือกเสาไฟถนนไม่ได้ขึ้นอยู่กับราคาเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับ มาตรฐานวัสดุและกระบวนการผลิต
-
- เลือกเสาไฟที่ผลิตจาก เหล็ก มอก. 1479-2541 หรือเทียบเท่า
- ผ่านกระบวนการ ชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อน (Hot-Dip Galvanizing)
- มี ชั้นเคลือบสังกะสีหนา ≥ 85 µm
- และผ่านการตรวจสอบจากวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ
ด้วยมาตรฐานเหล่านี้ เสาไฟถนนจะสามารถใช้งานได้ยาวนานกว่า 20 ปี โดยไม่ต้องบำรุงรักษาบ่อย และช่วยให้ระบบไฟส่องสว่างสาธารณะปลอดภัยในระยะยาว
NINELED แสงสว่างที่คุณวางใจได้ จากแบรนด์ที่คุณเลือก พื้นที่รวมแบรนด์ชั้นนำ ให้คุณเลือกซื้อไม่ว่าจะสปอร์ตไลท์ โคมไฟไฮเบย์ โคมถนน หลอดไฟ LED โซล่าเซลล์ และเสาไฟ สนใจสอบถาม-สั่งซื้อเกี่ยวกับสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ Line : @NINELED