ระบบป้องกันไฟกระชากสำหรับสปอร์ตไลท์ LED สิ่งจำเป็นที่ไม่ควรมองข้าม
สปอร์ตไลท์ LED เป็นโคมไฟที่ถูกนำมาใช้งานอย่างแพร่หลายในพื้นที่ภายนอกอาคาร ไม่ว่าจะเป็นสนามกีฬา ลานจอดรถ พื้นที่โรงงาน หรือบริเวณรอบอาคารขนาดใหญ่ แม้โคมไฟ LED จะขึ้นชื่อเรื่องอายุการใช้งานยาวนานและประหยัดพลังงาน แต่ในทางปฏิบัติพบว่า สปอร์ตไลท์จำนวนมากเสียหายก่อนอายุการใช้งานที่ควรจะเป็น สาเหตุสำคัญมักไม่ได้เกิดจากชิป LED เสื่อมคุณภาพ แต่เกิดจาก ไฟกระชากสปอร์ตไลท์ในระบบไฟฟ้า
ระบบป้องกันไฟกระชาก (Surge Protection Device: SPD) สำหรับสปอร์ตไลท์ LED โดยเน้นข้อมูลที่ใช้งานจริงในงานภายนอกอาคาร เพื่อช่วยให้ผู้ออกแบบ ผู้รับเหมา และผู้ใช้งานเลือกโคมไฟได้ถูกต้องและลดความเสียหายในระยะยาว
ไฟกระชาก (Surge) คืออะไรในระบบไฟฟ้าแสงสว่าง
ไฟกระชาก คือ สภาวะที่แรงดันไฟฟ้าในระบบเพิ่มสูงขึ้นอย่างฉับพลันในช่วงเวลาสั้นมาก ระดับเวลาอยู่ในช่วงไมโครวินาที แม้จะเกิดขึ้นเพียงชั่วขณะ แต่แรงดันที่สูงเกินพิกัดสามารถสร้างความเสียหายให้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้ทันที ในระบบแสงสว่าง ไฟกระชากมักไม่ทำให้เบรกเกอร์ตัด แต่จะค่อย ๆ ทำลายอุปกรณ์ภายในของโคมไฟ LED โดยเฉพาะส่วนของ LED Driver
แหล่งกำเนิดไฟกระชากที่พบได้บ่อยในสปอร์ตไลท์ LED
1.ไฟกระชากจากฟ้าผ่าทางอ้อม
แม้ฟ้าจะไม่ได้ผ่าลงที่เสาไฟโดยตรง แต่การผ่าลงพื้นดินหรือสายส่งไฟฟ้าในบริเวณใกล้เคียงสามารถก่อให้เกิดแรงดันเหนี่ยวนำเข้าสู่สายไฟ และส่งแรงดันกระชากเข้าสู่โคมไฟ LED ได้ โดยเฉพาะโคมไฟที่ติดตั้งบนเสาสูงหรือพื้นที่โล่ง
2.ไฟกระชากจากการสวิตชิ่งในระบบไฟ
การตัดต่อโหลดไฟฟ้า เช่น การสตาร์ทมอเตอร์ขนาดใหญ่ การทำงานของลิฟต์ หรือการเปิด–ปิดเบรกเกอร์ สามารถสร้างแรงดันกระชากในระบบไฟเดียวกันได้ ซึ่งมักส่งผลกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีความไวสูงอย่าง LED Driver
เหตุผลที่สปอร์ตไลท์ LED เสียหายจากไฟกระชากได้ง่าย
สปอร์ตไลท์ LED ทำงานด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ซับซ้อน ภายในประกอบด้วยแผงวงจร ไดรเวอร์ และชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์หลายชนิด ชิ้นส่วนเหล่านี้มีขีดจำกัดแรงดันไฟฟ้าที่แน่นอน เมื่อได้รับแรงดันเกินพิกัด แม้เพียงช่วงเวลาสั้น ๆ ก็อาจเกิดความเสียหายถาวรได้
ความเสียหายที่พบบ่อย ได้แก่
-
- ไดรเวอร์เสียหรือไหม้
- วงจรภายในลัดวงจร
- ชิป LED ดับทั้งแผง
- อายุการใช้งานสั้นลงอย่างผิดปกติ
ระบบป้องกันไฟกระชาก (SPD)
Surge Protection Device (SPD) คืออุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อจำกัดแรงดันไฟฟ้าสูงผิดปกติไม่ให้เข้าสู่อุปกรณ์ไฟฟ้า โดยจะทำหน้าที่ระบายแรงดันส่วนเกินลงสู่ระบบสายดิน ในสภาวะปกติ SPD จะไม่ส่งผลต่อการทำงานของโคมไฟ แต่เมื่อเกิดไฟกระชาก อุปกรณ์ภายใน เช่น MOV (Metal Oxide Varistor) จะทำงานทันที เพื่อลดแรงดันให้เหลืออยู่ในระดับที่ปลอดภัยสำหรับ LED Driver
ระดับการป้องกันไฟกระชาก
1.การป้องกันในตัวไดรเวอร์
ไดรเวอร์ LED ทั่วไปมักมีการป้องกันไฟกระชากในระดับพื้นฐาน โดยค่าที่พบได้ทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 2–4 kV ซึ่งเหมาะกับการใช้งานภายในอาคารหรือพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่ำ
2.การป้องกันสำหรับงานภายนอกอาคาร
สำหรับสปอร์ตไลท์ LED ที่ใช้งานกลางแจ้ง ควรเลือกโคมไฟที่มีการระบุค่า Surge Protection ชัดเจนในระดับที่สูงกว่า เช่น
-
- 10 kV สำหรับงานภายนอกทั่วไป
- 20 kV สำหรับเสาสูง สนามกีฬา หรือพื้นที่โล่งแจ้ง
การมีค่า Surge Protection ที่สูงขึ้นช่วยลดความเสียหายจากฟ้าผ่าทางอ้อมและไฟกระชากจากระบบไฟได้อย่างมีนัยสำคัญ
ความสำคัญระบบสายดินการทำงานของ SPD
SPD จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อระบบสายดินได้รับการติดตั้งอย่างถูกต้อง หากไม่มีสายดิน หรือสายดินมีค่าความต้านทานสูง แรงดันไฟกระชากจะไม่สามารถระบายออกได้ และอาจย้อนกลับไปทำลายอุปกรณ์ภายในโคมไฟแทน
ดังนั้น การติดตั้งสปอร์ตไลท์ LED ภายนอกอาคารควรให้ความสำคัญกับระบบสายดินควบคู่ไปกับการเลือกโคมไฟที่มี SPD เสมอ
เลือกสปอร์ตไลท์ LED ที่มีระบบป้องกันไฟกระชาก
ก่อนตัดสินใจเลือกใช้สปอร์ตไลท์ สำหรับงานภายนอกอาคาร ควรตรวจสอบข้อมูลดังต่อไปนี้
-
- ระบุค่า Surge Protection ชัดเจนในเอกสารส์เปก
- เหมาะสมกับลักษณะพื้นที่ติดตั้ง
- รองรับการใช้งานร่วมกับระบบสายดินที่ถูกต้อง
- ไม่เลือกโคมไฟที่ไม่มีข้อมูลด้านการป้องกันไฟกระชาก
บทสรุป
ระบบป้องกันไฟกระชากเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่ออายุการใช้งานของสปอร์ตไลท์ LED โดยเฉพาะในงานภายนอกอาคาร การเลือกโคมไฟที่มี Surge Protection เหมาะสม ร่วมกับการติดตั้งระบบสายดินอย่างถูกต้อง จะช่วยลดความเสียหายที่เกิดขึ้นโดยไม่จำเป็น และทำให้การลงทุนด้านระบบแสงสว่างมีความคุ้มค่าในระยะยาว
NINELED แสงสว่างที่คุณวางใจได้ จากแบรนด์ที่คุณเลือก พื้นที่รวมแบรนด์ชั้นนำ ให้คุณเลือกซื้อไม่ว่าจะสปอร์ตไลท์ โคมไฟไฮเบย์ โคมถนน หลอดไฟ LED โซล่าเซลล์ และเสาไฟ สนใจสอบถาม-สั่งซื้อเกี่ยวกับสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ Line : @NINELED
