ระหว่างไฟสปอร์ตไลท์กับไฟฟลัดไลท์ ใครสว่างกว่ากัน

สปอร์ตไลท์กับไฟฟลัดไลท์ ใครสว่างกว่ากัน

ระหว่างไฟสปอร์ตไลท์กับไฟฟลัดไลท์ ใครสว่างกว่ากัน

พูดถึงโคมไฟส่องสว่างภายนอก คงเคยได้ยินชื่อ สปอร์ตไลท์ หรือ ฟลัดไลท์ กันบ้างอยู่แล้ว แต่แบบไหนสว่างกว่ากัน และเหมาะกับการใช้งานในสถานที่แบบไหน มาดูความแตกต่าง จุดเด่น และการใช้งานที่เหมาะสมของไฟทั้งสองชนิด พร้อมแนะนำการเลือก เสาสปอร์ตไลท์ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการส่องสว่างได้

ไฟสปอร์ตไลท์ สว่างแค่ไหน?

ไฟสปอร์ตไลท์ (Spotlight) เป็นโคมไฟที่ออกแบบมาเพื่อส่องแสงแบบ ลำแสงแคบ และพุ่งไปยังเป้าหมายเฉพาะ เช่น ต้นไม้ ป้ายโฆษณา หรือรูปปั้น จุดเด่นคือการโฟกัสแสงได้ชัดเจน อยากให้เด่นตรงไหนส่องตรงนั้น

  • มุมกระจายแสง (Beam Angle): ประมาณ 15–45 องศา
  • ความสว่าง: ให้ความเข้มของแสงสูงมากในจุดที่ส่องไป
  • การใช้งานที่เหมาะสม: สวนหย่อม, โครงการแลนด์สเคป, สนามกีฬา, งานตกแต่งอาคาร, เวทีการแสดง

ไฟฟลัดไลท์ สว่างมากไหม?

ไฟฟลัดไลท์ (Floodlight) ไฟที่ออกแบบมาเพื่อกระจายแสงแบบ มุมกว้าง ทำให้พื้นที่โดยรอบสว่างทั่วถึง เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความปลอดภัยและการมองเห็นโดยรอบมากกว่าการเน้นเฉพาะจุด

  • มุมกระจายแสง (Beam Angle): 60–120 องศา
  • ความสว่าง: กระจายแสงได้ทั่วบริเวณ ไม่แสงเข้มเท่าสปอร์ตไลท์
  • การใช้งานที่เหมาะสม: ไฟสนาม, ไฟโรงงาน, ไฟถนน, ลานจอดรถ, พื้นที่คลังสินค้า, ไฟส่องอาคาร

เสาสปอร์ตไลท์กับการใช้งานไฟภายนอก

การติดตั้ง เสาสปอร์ตไลท์ ช่วยกำหนดทิศทางและความสูงของแสง ทำให้โคมไฟสามารถส่องครอบคลุมพื้นที่ได้ดียิ่งขึ้น

  • เสาสปอร์ตไลท์สูง 10–20 เมตร: เหมาะกับสนามกีฬา สนามฟุตบอล ลานจอดรถขนาดใหญ่ ใช้คู่กับไฟฟลัดไลท์เพื่อกระจายแสงทั่วสนาม
  • เสาสปอร์ตไลท์ขนาดกลาง 6–10 เมตร: ใช้ในสวนสาธารณะ โรงงาน หรือสนามกีฬาขนาดเล็ก สามารถติดตั้งไฟสปอร์ตไลท์เพื่อเน้นวัตถุ หรือไฟฟลัดไลท์เพื่อส่องพื้นที่กว้าง
  • เสาสปอร์ตไลท์เตี้ย 3–5 เมตร: เหมาะสำหรับสวน บ้านพักอาศัย หรือการจัดไฟแลนด์สเคป ใช้ไฟสปอร์ตไลท์ LED เพื่อโชว์ต้นไม้หรือสถาปัตยกรรม

เคล็ดลับ: การเลือกเสาไฟสปอร์ตไลท์ควรดูทั้ง ความสูง ความแข็งแรง และมุมเอียงของโคมไฟ เพื่อให้ได้แสงที่สว่างเพียงพอโดยไม่เกิดเงาหรือแสงรบกวนสายตา

ไฟสปอร์ตไลท์กับไฟฟลัดไลท์ สว่างต่างกันยังไง

สปอร์ตไลท์กับฟลัดไลท์สว่างกว่ากันจริงหรือ?

ระหว่าง ไฟสปอร์ตไลท์ (Spotlight) และ ไฟฟลัดไลท์ (Floodlight) แบบไหนสว่างกว่ากัน คำตอบไม่ได้ขึ้นอยู่กับค่าลูเมน (Lumen) เพียงอย่างเดียว แต่ต้องดูการกระจายแสง(Beam Angle) และที่สำคัญคือ ความสูงและตำแหน่งการติดตั้งโคมไฟบนเสาสปอร์ตไลท์

ไฟสปอร์ตไลท์ ถึงแม้ค่าลูเมนจะเท่ากับฟลัดไลท์ แต่เพราะแสงถูกบีบให้ออกในมุมแคบ (15–45°) ทำให้จุดที่ส่องไปดู “สว่างเข้ม” กว่า และเจาะจงเฉพาะจุด 

  • เหมาะกับการติดตั้งบน เสาสปอร์ตไลท์ความสูงปานกลาง (3–10 เมตร) เพื่อเน้นวัตถุ เช่น ต้นไม้ ป้ายโฆษณา หรือสนามกีฬา

ไฟฟลัดไลท์ กระจายแสงกว้าง (60–120°) ความเข้มไม่เท่าสปอร์ตไลท์ แต่ครอบคลุมพื้นที่ได้กว้างกว่า

  • เหมาะกับการติดตั้งบน เสาสปอร์ตไลท์สูง (10–20 เมตรขึ้นไป) เช่น สนามฟุตบอล ลานจอดรถ หรือโรงงาน เพื่อให้แสงกระจายทั่วบริเวณ

ดังนั้น คำว่า “ใครสว่างกว่ากัน” ต้องมองคู่กับ ตำแหน่งการติดตั้งเสาสปอร์ตไลท์ เสมอ เพราะแม้ไฟจะสว่างแค่ไหน หากติดตั้งผิดระดับหรือไม่เหมาะสมกับพื้นที่ ก็อาจให้แสงได้ไม่เต็มที่

บทสรุป

ไฟสปอร์ตไลท์ ให้แสงสว่างในมุมแคบ (15–45°) ทำให้ลำแสงแคบ และพุ่งไปยังวัตถุ เหมาะกับการติดตั้งบนเสาสปอร์ตไลท์ความสูงปานกลาง (3–10 เมตร) เพื่อเน้นวัตถุ  ส่วนไฟฟลัดไลท์ กระจายแสงกว้าง (60–120°) ความเข้มไม่เท่าสปอร์ตไลท์ แต่ครอบคลุมพื้นที่ได้กว้างกว่า เหมาะกับการติดตั้งบนเสาสปอร์ตไลท์สูง (10–20 เมตรขึ้นไป) เพื่อให้แสงกระจายทั่วบริเวณ ใดๆ แล้วทั้งหมดขึ้นอยู่ทั้งสปอร์ตไลท์ ความสูงเสา และการติดตั้งจริง

แหล่งจัดจำหน่ายหลอดไฟ LED โคมไฟถนน LED เสาไฟถนน โคมไฮเบย์ LED สปอร์ตไลท์ LED ดาวน์ไลท์ราคาถูกสนใจสอบถามข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมที่
LINE Official Account:@nineled

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.